การเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเพื่อการเรียน การทำงาน หรือเหตุผลด้านครอบครัว ต้องเผชิญกับกระบวนการขอวีซ่าที่ซับซ้อน Ethaivisa เข้าใจถึงความยุ่งยากนี้เป็นอย่างดี และมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ขั้นตอนต่างๆ เข้าถึงได้ง่าย และลดความเครียด เรายินดีให้บริการให้คำปรึกษาแก่ท่านฟรี
สหรัฐอเมริกา เป็นแผ่นดินที่กว้างขวางและมีความหลากหลาย นำเสนอประสบการณ์ที่น่าทึ่งแปลกใหม่สำหรับนักเดินทาง ตั้งแต่ทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่งดงามรวมไปถึงเมืองที่อุดมสมบูรณ์และร่ำรวยทางวัฒนธรรม สหรัฐอเมริกามีสิ่งที่เหมาะสำหรับทุกคน ในบทความนี้เราจะพาคุณเดินทางผ่านปลายทางที่น่าหลงใหล และกิจกรรมที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นสถานที่ที่ต้องเยี่ยมชมสำหรับนักเดินทางทุกคน
ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยว หรือ ไปศึกษาต่อ ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ประเทศสหรัฐอเมริกา” เป็นหนึ่งในประเทศที่หลายคนอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต เรียกได้ว่าเป็นประเทศในฝันก็ว่าได้ ทั้งนี้เนื่องจากอเมริกาที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 50 รัฐ อีกทั้งยังหลากหลายไปด้วยวัฒนธรรม และ สัญชาติ จึงทำให้นักท่องเที่ยวหลายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เที่ยวเมกาเหมือนได้ไปเปิดโลกกว้าง และ ได้เห็นมุมมองความคิดเสรี ซึ่งหาไม่ได้จากประเทศไหนในโลก” อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า การขอวีซ่าอเมริกาเป็นเรื่องยาก และมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้การยื่นวีซ่าถูกปฏิเสธ เราจึงได้รวบรวมขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกา, เอกสารที่จำเป็น, ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา, ระยะเวลาในการยื่น รวมไปจนถึงเคล็บลับการสัมภาษณ์วีซ่า เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการขอวีซ่าครั้งนี้ ผ่านแน่นอน!
จะต้องทำการยื่นวีซ่าอเมริกาแบบชั่วคราว ดังนั้นบทความนี้ เราจะเจาะลึกไปที่การขอยื่นวีซ่าอเมริกาแบบชั่วคราวเป็นหลัก ประเภทวีซ่าอเมริกาแบบชั่วคราว (Non-Immigrant Visa) สำหรับวีซ่าแบบชั่วคราว จะเป็นวีซ่าสำหรับผู้เดินทางที่มีจุดประสงค์บางอย่างโดยเฉพาะ ได้แก่ การท่องเที่ยว การเรียนต่อ การทำธุรกิจ และ การพำนักอยู่ที่อเมริกาในระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น การยื่นวีซ่า และ การสัมภาษณ์ จำเป็นต้องทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าเรามีวัตถุประสงค์ในการพำนักที่อเมริกาเพียงแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วจะกลับไทยหลังเมื่ออายุวีซ่าสิ้นสุดลง
แบ่งออกเป็นตามวัตถุประสงค์ได้ดังนี้ :
วีซ่าประเภท B-2 | สำหรับท่องเที่ยว (ค่าธรรมเนียม 5,440 บาท) |
---|---|
วีซ่าประเภท B-1 | สำหรับทำธุรกิจ สัมนา หรือ ประชุม (ค่าธรรมเนียม 5,440 บาท) |
วีซ่าประเภท C1 | สำหรับเดินทางผ่านแดน (ค่าธรรมเนียม 5,440 บาท) |
วีซ่าประเภท F, J และ M | สำหรับนักเรียน เช่น นักเรียนโครงการแลกเปลี่ยน และ นักเรียนสายวิชาชีพ (ค่าธรรมเนียม 5,440 บาท) |
วีซ่าประเภท K | สำหรับคู่หมั้นหรือคู่สมรสของชาวสหรัฐฯ (ค่าธรรมเนียม 9,010 บาท) |
วีซ่าประเภท L | สำหรับพนักงานที่ย้ายไปทำงานชั่วคราวภายใต้การจ้างงาน ของบริษัทในเครือเดียวกัน (ค่าธรรมเนียม 6,460 บาท) |
*ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมการขอยื่นวีซ่า อาจมีการผันแปรตามค่าเงินในช่วงเวลานั้นๆ
การทำการขอวีซ่าอเมริกา จำเป็นต้องกรอกคำร้อง และ นัดหมายวันสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ของสถานทูตอเมริกาก่อน โดย
เนื่องจากเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า เป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าหน้าที่สถานทูตใช้ในการตัดสินว่าคุณมีคุณสมบัติ หรือ ความพร้อมมากแค่ไหนในการท่องเที่ยว และ พำนักที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นเอกสารที่เตรียมไปเพื่อสัมภาษณ์ ควรเป็นความจริง และ ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเอกสารบ่งบอกตัวตน, ใบรับรองอาชีพการงาน, จดหมายสถานะทางการเงิน และ เอกสารจำเป็นอื่นๆ
โดยผู้ยื่นวีซ่า ควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนทั้งตัวจริง และ สำเนา ดังนี้
คำถามที่เจ้าหน้าที่ต้องถามผู้สัมภาษณ์แน่นอนคือ คำถามให้แนะนำตัวเอง และ จุดประสงค์ที่เดินทางเข้ามายังสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม คำถามจะแปรผันไปตามประเภทของวีซ่า และ เอกสารของผู้ยื่นวีซ่าแต่ละคน เช่น วีซ่า B-1 / B-2 มักจะถามถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางแท้จริง ในส่วนของวีซ่า F1 จะถามถึงสถาบันการศึกษาในปัจจุบัน หลักสูตรที่ไปเรียน วันเริ่มเรียน และ วันเรียนจบ รวมไปจนถึงเป้าหมายหลังจากสำเร็จการศึกษา
แต่ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าประเภทอะไร การสัมภาษณ์จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ดังนั้นควรเตรียมความพร้อมในการแนะนำตัว และตอบคำถามพื้นฐานด้วยความมั่นใจ เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์เห็นถึงความพยายามในการมาขอยื่นวีซ่าในครั้งนี้
การแต่งกาย ควรแต่งให้เรียบร้อย ถูกกาละเทศะ หรือ ถ้าจะให้ดีที่สุดควรแต่งกายด้วยชุด Business Attire ไม่สวมเครื่องประดับเยอะ เพราะจะทำให้ดูไม่เรียบร้อย
ปัจจุบัน มีไม่กี่ประเทศที่ผู้ยื่นวีซ่าต้องสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่สถานทูตโดยตรง ซึ่งสถานทูตอเมริกายังคงเป็นหนึ่งในนั้น ระยะเวลาในการสัมภาษณ์จะอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 นาที โดยส่วนใหญ่ คำถามที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการสอบถามผู้ยื่นวีซ่า จะแตกต่างกันไปถามประเภทของวีซ่า
เอกสารที่จำเป็นสำหรับผู้เชิญสำหรับวีซ่าเยี่ยมเยือนอาจแตกต่างกันไปตามประเทศที่ออกวีซ่า แต่โดยทั่วไปอาจรวมถึง :
# | เอกสาร | รายละเอียด |
---|---|---|
1 | หนังสือเชิญ (Invitation Letter) | จดหมายที่เขียนโดยผู้เชิญ โดยปกติจะต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการเยี่ยมเยือน รวมถึงวัตถุประสงค์ของการเยี่ยมเยือน, ความสัมพันธ์กับผู้ที่เชิญ, ระยะเวลาของการเยือน, และรายละเอียดการเข้าพัก (เช่น ที่อยู่ที่พัก) |
2 | หลักฐานการเงิน | อาจเป็นรายได้, ใบแสดงรายได้ (payslips), หรือหนังสือยืนยันจากธนาคาร เพื่อแสดงว่าผู้เชิญมีความสามารถทางการเงินที่เพียงพอที่จะสนับสนุนการเยี่ยมเยือน. |
3 | สำเนาเอกสารส่วนตัวของผู้เชิญ | เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง, บัตรประชาชน, หรือเอกสารที่แสดงสถานะการอยู่อาศัยในประเทศที่ออกวีซ่า (เช่น วีซ่า, ใบอนุญาตการทำงาน, การ์ดการอยู่อาศัยถาวร) |
4 | หลักฐานการทำงานหรือการศึกษา | ในบางกรณี, ผู้เชิญอาจต้องแสดงหลักฐานการทำงานหรือการศึกษาในประเทศที่พำนัก |
5 | หลักฐานที่อยู่อาศัย | เช่น สัญญาเช่าบ้าน, หลักฐานการเป็นเจ้าของบ้าน, หรือใบแจ้งค่าสาธารณูปโภค. |
6 | ประกันการเดินทาง | ในบางกรณี, อาจต้องการหลักฐานประกันการเดินทางที่ครอบคลุมระยะเวลาการเยี่ยมเยือน |
7 | หนังสือรับรองจากที่ทำงาน | หากผู้เชิญเป็นพนักงานหรือมีธุรกิจเป็นของตนเอง |
8 | รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต | บางครั้งอาจจำเป็นต้องใช้สำหรับเอกสารเชิญ. |
9 | แบบสอบถาม | (เฉพาะบางที่) |
** โปรดทราบว่าเอกสารที่จำเป็นอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละกรณีและขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของสถานทูต หรือกงสุลที่ทำการขอวีซ่า แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้หรือปรึกษาเรา เพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและแน่นอน **
22,24 ซอยรามคำแหง 2 ซ.13 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
@EthaiVisa
service@ethaivisa.com
+666 2714 2222